
✨นางอรุณรัตน์ ชิงชนะ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุม ร่วมงานแถลงความพร้อมการจัดงาน "Kraam International Symposium 2025" ด้วยแนวคิด “HANDS ACROSS CULTURE” ดึงทัพดีไซเนอร์ บรรณาธิการ และกูรูแฟชั่นระดับโลก ร่วมถอดรหัสครามไทยสู่เวทีโลก 19-22 พฤศจิกายน 2568 ที่เอ็มทาวเวอร์ เอ็มสเฟีย กรุงเทพฯ
✨
💠CDL Korat PromptPay : ซีดีแอล โคราช พร้อมเปย์ (Community Development Learning Center Korat PromptPay) 💠
🗓️ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568
⏰เวลา 14.00 น.
📌ที่เอ็มทาวเวอร์ เอ็มสเฟียร์ กรุงเทพฯ
✨นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน "Kraam International Symposium 2025" งานเสวนาวิชาการระดับนานาชาติครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ภายใต้โครงการศึกษาและพัฒนาองค์ความรู้ผ้าย้อมครามเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่สากล 2568 บนแนวคิด "HANDS ACROSS CULTURE" โดยมี นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางอรจิรา ศิริมงคล อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยและประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายกุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหารนิตยสารโว้ก ไทยแลนด์ และคุณธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทยและที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ร่วมแถลง และมีข้าราชการ ดีไซเนอร์ ตลอดจนสื่อมวลชนร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก
นายอรรษิษฐ์ เผยว่า “การจัดงาน ‘Kraam International Symposium 2025’ ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2568 ที่เอ็มทาวเวอร์ เอ็มสเฟีย ในครั้งนี้ ถือเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและยกระดับภูมิปัญญาผ้าไทยตามแนวพระดำริ ‘ผ้าไทยใส่ให้สนุก’ เราตั้งใจสร้างเวทีนี้ให้เป็นจุดเชื่อมโยงมรดกหัตถศิลป์ของไทยเข้ากับบริบทของโลกปัจจุบัน โดยการเชิญผู้เชี่ยวชาญระดับโลกมาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ต่อยอดผลิตภัณฑ์ผ้าครามไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดสากล และผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น ‘เมืองครามโลก’ (World Indigo City) ที่ยั่งยืน”
นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยมีคำขวัญสำคัญ คือ เป็น "ผู้บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้กับทุกคนในประเทศ ด้วยองคาพยพทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น จึงเป็นกระทรวงที่ทำงานใกล้ชิดประชาชนในทุกเรื่อง ครอบคลุมทั้งเรื่องความมั่นคง สังคม เศรษฐกิจ ด้วยมุ่งหวังทำให้ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ดังท่อนหนึ่งของบทเพลงมาร์ชพัฒนาชุมชนที่ว่า "สร้างหลักฐานและมีงานทำ ประกอบกิจกรรมร่ำรวยเพราะช่วยตนเอง"
"และนับเป็นความโชคดีของชาวมหาดไทยทุกคน ที่ "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา" ทรงมีพระปรีชาชาญและมีพระดำริพระราชทานให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้นำภาคีเครือข่ายทำสิ่งที่ประชาชนทำอยู่แล้วให้เกิดการพัฒนาต่อยอดขึ้น โดยทรงเล็งเห็นว่าผ้าและงานหัตถกรรมของประชาชนในหมู่บ้านต่าง ๆ แต่ละภูมิภาคมีลายผ้าดั้งเดิมของตนเองเป็นพื้นเดิม จึงพระราชทานผ้าลายพระราชทานลวดลายต่าง ๆ เพื่อยกระดับผ้าไทยที่เป็นอัตลักษณ์ของชาติให้ก้าวไปสู่ระดับโลก พระองค์จึงเสด็จไปปฏิบัติพระกรณียกิจในทุกพื้นที่ หรือที่เรียกว่าไป Coaching พร้อมทั้งพระราชทานพระอนุญาตให้ Guru ผู้เชี่ยวชาญความรู้วงการผ้าและหัตถกรรมด้านต่าง ๆ เป็น "วิชชาลัยเคลื่อนที่" ไปสอน ไปเคี่ยวเข็ญ ไปช่วยทำให้พี่น้องผู้ประกอบการ OTOP และสมาชิกศิลปาชีพ ได้พัฒนาศักยภาพของตนเองให้สามารถก้าวทันโลกได้ ให้ที่ขายดีอยู่แล้วได้เป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้บริโภคจากนานาประเทศ และพระราชทานพระอนุญาตให้มีการจัดประกวดประขันลวดลายผ้าและงานหัตถกรรมทุกปี ซึ่งตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ พระดำริของพระองค์ทำให้รายได้จากการจำหน่ายผ้าไทย ตั้งแต่ปี 2563 - 2568 มากกว่า 9 หมื่นล้านบาท จึงขอให้พวกเราทุกคนได้ช่วยกันเพื่อพัฒนาและต่อยอดผ้าไทยให้ยิ่งใหญ่ต่อไป"
นายสยาม กล่าวว่า งาน “Kraam International Symposium 2025 เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของกรมการพัฒนาชุมชนในการสนองงานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ควบคู่การตอบสนองภารกิจสำคัญ คือ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้พี่น้องประชาชน โดยต่อยอดมาจากการน้อมนำแนวพระดำริ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" รวมถึงดอนกอยโมเดล นาหว้าโมเดล บาติกโมเดล จักสานสู่สากล การส่งเสริมกิจกรรมของเยาวชนดีไซเนอร์และผู้ประกอบการ OTOP รุ่นใหม่ เป็นต้น
นางอรจิรา กล่าวว่า พวกเราชาวมหาดไทยจะคุ้นชินกับคำว่า Sustainable Fashion เรียกได้ว่า เข้ากระแสเลือดพวกเรา ด้วยเพราะพระบารมีและพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่าน ทำให้พวกเราได้เป็นผู้นำในเรื่อง Sustainable มาเป็นเวลาหลายปี โดยเฉพาะโครงการเกี่ยวกับผ้าไทยใส่ให้สนุก และต่อยอดสู่พระดำริ Sustainable Fashion ด้วยทรงเล็งเห็นว่า ตอนนี้ Global Trend ที่ไม่ว่าประเทศไหนจะส่งออกสินค้าหรือผลิตภัณฑ์จากผ้าจะต้องมีเรื่อง Carbon Footprint เข้ามา และทุกวันนี้ผู้ประกอบการก็ไม่ได้ใช้ไหมโรงงาน หันมาใช้ไหมเข็นมือ ใช้เส้นใยธรรมชาติ จนไทยถือเป็นหนึ่งในผู้นำเทรนด์
"การคาดหวังในงานนี้ คือ "การสื่อสาร" ให้คนทั่วโลกได้รับรู้และนำไปขยายผลไปทั่วทั้งโลก โดยแขกรับเชิญจากทั่วโลกที่เป็นผู้คร่ำหวอดวงการผ้า แฟชั่น และทุกกระบวนงาน จะมาเป็น Guest ในงาน เพื่อจะได้ไปสื่อสารให้คนทั่วโลกได้รับการยืนยันว่า "ประเทศไทยเราพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดสากลด้านผ้าและงานหัตถกรรม"
นายกุลวิทย์ กล่าวว่า งานในครั้งนี้เป็นครั้งแรกของการจัดงานวิชาการแฟชั่นวงการครามและหัตถศิลป์หัตถกรรม "ระดับโลก" ด้วยพระองค์ทรงเป็นองค์ดีไซเนอร์ที่คร่ำหวอดในวงการแฟชั่นและทรงเห็นว่า แฟชั่นในต่างประเทศเดินหน้าไปไกลมาก พระองค์จึงทรงคิดว่า ถ้าเราจะทำให้ผ้าไทยพัฒนาไปไกลได้ จึงต้องมีเสียงจาก Global เข้ามาช่วยด้วย จึงเป็นที่มาแนวคิด Hand Across Culture โดยจะมีผู้ประกอบการ ศิลปิน ผู้นำแวดวงผ้า Fashion Leader Fashion Commentator จะมาแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ต่าง ๆ เพื่อที่เราจะขับเคลื่อนไปอย่างมีชีวิตชีวา และจะเป็นงานสำคัญที่ทำให้พวกเราจะได้เข้าใจวัฒนธรรมร่วมสมัยของวงการผ้า หัตถกรรมและคราม เพื่อจะสามารถพัฒนาขับเคลื่อนไปสู่ระดับสากลได้ พวกเราคนไทยจะได้มาเข้าใจภาษาแฟชั่นของทั่วโลก (Global Language) ตลอด 4 วันนี้
ด้านนายธนันท์รัฐ กล่าวว่า ต้องขอบคุณโอกาสจากกระทรวงมหาดไทย ที่มีชื่อภาษาอังกฤษ ว่า Ministry of Interior คำว่า Interior คือ ภายในประเทศ และให้โอกาสทีมงานผ้าไทยใส่ให้สนุก ได้สนองพระดำริเรื่องการนำ Global เข้ามา Across กับ Cultural ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้งาน "Kraam International Symposium 2025" ในขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้างานแล้วมากกว่า 2,000 คน และด้วยพระบารมีและพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ผู้ทรงดำรงพระองค์เป็นผู้นำเผยแพร่วัฒนธรรมไปยังต่างประเทศ ผ่านการคัดเลือกผลงานที่เป็นผลสำเร็จที่กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการพัฒนาชุมชนเป็นผู้ขับเคลื่อน อาทิ ดอนกอยโมเดล นาหว้าโมเดล ที่เกิดขึ้นจาก ผลสำเร็จของกระทรวงมหาดไทย จึงทำให้พระองค์มีภาคีเครือข่ายในแวดวงวัฒนธรรม แฟชั่น และวงการผ้าจากทั่วโลก
"งานในครั้งนี้ จะมีการบรรยายพิเศษจากผู้นำหลากหลายวงการ อาทิ ภัณฑารักษ์ระดับโลก ในหัวข้อ "มรดกแห่งงานหัตถศิลป์" โดย Béatrice Quette จาก Musée des Arts Décoratifs กรุงปารีส หัวข้อ "การถักทออันทรงคุณค่า" โดย Louis Copplestone จาก Victoria and Albert Museum กรุงลอนดอน และ "การต่อยอดภูมิปัญญาการย้อมครามแห่งญี่ปุ่น" โดย Kenta Watanabe จาก Watanabe’s Co., Ltd. ประเทศญี่ปุ่น โดยภายในงานจะมีการจัดกลุ่มเป้าหมายที่ได้ลงทะเบียนแล้วให้สอดคล้องกับวิทยากรผู้บรรยาย เพื่อให้สามารถใช้เวทีนี้อันเป็นเวทีวิชาการระดับโลกนำสิ่งที่ดี ที่เป็นเอกลักษณ์อัตลักษณ์ของประเทศไทยไปขยายผลขับเคลื่อนเป็นวัฒนธรรมสากลร่วมกับนานาประเทศ รวมทั้งทำให้พวกเราชาวไทยจะได้รับองค์ความรู้จากสากลมาต่อยอดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราให้ก้าวสู่ความเป็นสากลอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป"
📸ภาพ/ข่าว🎬 ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครราชสีมา
#กรมการพัฒนาชุมชน
#CDD
#สร้างสรรค์ชุมชนสร้างคนสร้างชาติ
#ChangeforGood
#MOI
#PowerofTeam
#กระทรวงมหาดไทย
#บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#ศพช.นครราชสีมา
#CDLKoratPromptPay